วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

โปรตีโอแบคทีเรีย (Proteobacteria)


โปรตีโอแบคทีเรีย (Proteobacteria)
·       มี 380 genera, 1300 species เป็นแบคทีเรียกลุ่มใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายที่สุด
·       เป็นแบคทีเรีย Gram–negative
·       มี 5  Classes ดังนี้
1.      Alphaproteobacteria
2.      Betaproteobacteria
3.      Gammaproteobacteria
4.      Deltaproteobacteria
5.      Epsilonproteobacteria
ข้อ 1-3 เป็น purple photosynthetic bacteria  เหตุนี้จึงสันนิษฐานว่า proteobacteria วิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษมีลักษณะคล้ายกับ purple bacteria ที่สังเคราะห์แสงได้

1. Class  Alphaproteobacteria

·       มีทั้ง  oligotrophic proteobacteria (เจริญได้ที่ low nutrient levels)
มี methylotrophy (Methylobacterium)
Chemolithotrophy (Nitrobacter)
Abletofixnitrogen (Rhizobium)
Rickettsia และ Brucella เป็น pathogens ก่อให้เกิดโรค
และ Prosthecae มีรูปร่างแปลก
·       6 orders, 18 families

1.1  Purple nonsulfur bacteria
·       ใช้การสังเคราะห์แสงแบบ anoxygenic photosynthesis
·       มี bacteriochlorophylls แบบ a หรือ b ซึ่งสามารถดูดกลืนแสงที่คลื่นแสงต่างกัน
·       ส่วนมากเคลื่อนที่ได้ (motile) มี flagella
·       เป็น photoorganoheterotrophs
·       แต่มีบาง species  สามารถอ๊อกซิไดซ์ (oxidize) sulfide ให้เป็น sulfate ได้ โดยใช้จำนวนสารตั้งต้นที่น้อยมากๆ
·       รูปร่าง morphology มีหลายแบบ
·       มีทั้งแบบ  spirals, rods, half circles, circles, prosthecae หรือ buds
·       พบได้ตั้งแต่ในโคลนในทะเลสาบ  แอ่งน้ำที่มีสารออร์กานิกอุดมสมบูรณ์และมีปริมาณ sulfide ต่ำ

1.2   Rickettsia  and  Coxiella
·       รูปร่าง Rod–Shape, coccoid  หรือเป็น pleomorphic ที่มีการติดสีเป็น Gram-negative ไม่มี flagella
·       รูปร่างเล็ก ประมาณ  0.2 – 2.0 micron (micrometer)
·       เป็นปรสิตใน erythrocytes และ macrophages และใน vascular endothelial cell ในหนูและคน นอกจากนี้แล้วยังเป็น parasitesในพวก เห็บ เหา ด้วย
·       Rickettesia  เข้าสู่ host cells โดยชักนำให้เกิด phagocytosis  เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะหนีจาก phagosome และแพร่พันธุ์โดยbinary fission ใน cytoplasm ของ host cells ทันที
·  Coxiella  เมื่อเข้าสู่ host  cell แล้วจะยังอยู่ใน phagosome  หลังจากที่ Coxiella 
    หลอมรวมกับ lysosome แล้ว   และ coxiella นี้จะแพร่พันธุ์ใน phagolysosome
    ต่อจากนั้น host cell จะแตกได้ Coxiella จำนวนมากต่อไป
              * host  cells  จะได้รับอันตรายจาก cell lysis และ rickettsial cell wall  = ซึ่งเป็น toxic
·        Rickettsias ไม่มี glycolytic pathway, ไม่ใช้ glucose แต่จะใช้ glutamate และ สารที่ได้จาก tricarboxylic acid cycle
·       plasma membrane ของ rickettsias มี transport system ที่ใช้ดูดซึมและขนส่งสารอาหารและสารที่จำเป็นต่างๆ มาจาก host cells
เช่น สามารถดูดซึม ADP, ATP, NAD หรือ glucose  จาก host cells  สิ่งนี้จึงอธิบายว่าทำไมการเพาะเลี้ยงเชื้อ rickettsias จึงต้องทำใน yolk sacs หรือ chick  embryos หรือ tissue culture cells
·       genome sequence ของ Rickettsia  prowazekii แสดงให้เห็นว่า genome นี้มีรหัส  DNA คล้ายกับ mitochondria  ของคนเรา ซึ่งเป็นไปได้ว่า mitochondria  นั้นวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษของ Rickettsia  ที่อาศัยอยู่ในร่างกายเราอย่างพึ่งพาอาศัยกัน
·       R. prowazekii  และ R. typhi  ทำให้เกิด typhus fever
R. rickettsii  ทำให้เกิด Rocky Mountain spotted fever
Coxiella  burnetii  ทำให้เกิด  Q fever ในคน
Rickettsias  ยังเป็น  pathogens ในสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

1.2 Caulobacteraceae  and  Hyphomicrobiaceae
·   ไม่ใช่  proteobactaria  ทั้งหมดที่มีรูปร่างเป็น rods หรือ cocci ง่ายๆ   แต่บาง
      ชนิดจะมี  appendage  ยื่นออกมา  แบคทีเรียนี้จะมี  appendage  ยื่นออกมา    
     แบคทีเรียนี้จะมี  appendage  ลักษณะใดลักษณะหนึ่งต่อไปนึคือ: aprostheca ,   
      astalk  หรือ  budding
·    Aprostheca [pl., prosthecae] = ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ รวมถึง plasma 
     membrane  และ  cell  wall  แต่จะมีลักษณะเรียวกว่าเซลล์ที่สมบูรณ์
·    A  stalk = nonliving appendage  สร้างโดยเซลล์ที่จะยื่นออกมา
·    Budding = เซลล์ที่เกิดมาจาก binary fission
·    ใน  family  นี้มี  genera  ที่ถูกศึกษาไว้มากคือ Caulobacter  กับ 
       Myphomicrobium

Genus  Hyphomicrobium

 ·    เป็น  Chemoheterotrophic, aerobic, budding bacteria
           ·    มักจะพบที่ผิวของวัตถุที่เข็งในน้ำทะเลหรือบนบกและผิวน้ำ

·    ขนาดของเซลล์  0.5–1.0  x  1–3 micron
          ·    Hyphomicrobium  ไม่สามารถเจริญได้กับ sugars และ amino acids  ส่วนใหญ่ 
               แต่เจริญได้กับ ethanol, acetate  และสารคาร์บอนโมเลกุลเดี่ยว (one-carbon
               molecules) เช่น methanol, formate และ  formaldehyde
·    เป็น methylotroph  สามารถใช้สาร one-carbon molecules สร้างพลังงานได้
·    Hypholotroph อาจจะพบอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เป็นแหล่งน้ำที่มีสารอาหารต่ำ 
     คิดเป็น 25 % ของประชากรในแหล่งน้ำนั้นทั้งหมด

Genus  Coulobacter

·    อาจจะพบเป็น polarly flagellated rods  หรือมี prostheca หรือ holdfast (เกาะกัน
     เป็นกลุ่มด้วย prostheca)
·   มักจะแยกเชื้อได้มาจากน้ำจืดและทะเลที่มีปริมาณสารอาหารอยู่น้อยและยังพบตาม
     พืชดินด้วย
·   มักพบเกาะอยู่กับ bacteria algae หรือสิ่งมีชีวิตอื่น และอาจจะดูดซึมสารอาหารที่
     ปล่อยออกมาจาก host เหล่านี้
·   Prostheca ของ coulobacter  ต่างจากของ hyphomicrobium  ตรงที่ไม่มี 
     cytoplasmic component แต่จะประกอบด้วย plasma membrane และ cell wall 
     เกือบทั้งโครงสร้าง และสามารถเจริญเติบโตได้ยาวกว่า 10 เท่าของความยาวของ 
     coulobacter ปกติ

1.3  Family  Rhizobiaceae
          ·   เป็น Gram – negative, aerobic มี 2 genera คือ Rhizobium และ Agrobacterium

 Rhizobium

      ·  ขนาด 0.5 – 0.9 × 1.2 × 3.0 micron เป็น  motile rod
· มักจะมี  poly – ß – hydroxybutyrate  granules
· จะเปลี่ยนเป็น  pleomorphic  ถ้าอยู่ในภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญ
· เป็น nitrogen – fixing bacteroids
· อาศัยอยู่ที่ root nodule cells ของพืชตระกูลถั่ว (legumes) ที่รากพืชแบบพึ่งพาอาศัย

            Azotobacter

· free–living soil genus อยู่ในดินอย่างอิสระ
· fix nitrogen ในอากาศ = nonsymbiotic
· ไม่กระตุ้นให้รากพืชเกิดปมที่ราก (root nodule) แต่จะบุกรุก crow, roots  และ 
    stem cell ในพืช และเปลี่ยนเป็น tumor cells
· species ที่ศึกษากันมากคือ A. tumefaciens  ที่ทำให้เกิด  crown gall 
    disease ในพืช
· การเกิดโรค  crown gall disease  ขึ้นอยู่กับ Ti  plasmid (tomor – iducing   
    plasmid)  อยู่ใน A. tumefaciens


1.5  Nitrifying  Bacteria
          ·   3 classes, หลาย families
          ·   Nitrobacter  อยู่ใน  Bradyrhizobiaceae, alpha- proteobacteria
          ·   Nitrosomonus  และ Nitrotrosospira  อยู่ใน  Nitrosomonadaceae , beta-
               proteobacteria
          ·   Nitrococcus  อยู่ใน  Ectothiorhodospiraceae, gamma- proteobacteria
          ·   Nitrosoccus  อยู่ใน  Chromatiaceae,  gamma- proteobacteria
·   Aerobic, Gram-negative, ไม่มี endospores
·   สามารถออกซิไดซ์ (oxidize) amonia หรือ nitrite ได้ (ลักษณะพิเศษที่ใช้จำแนก)
·   สามารถแยกเชื้อได้จากพื้นดิน ระบบน้ำทิ้ง น้ำจืด หรือน้ำเค็ม
·   Genera  Nitrobacter  and  Nitrococcus
         Nitrite --> oxidized --> Nitrate
·   Genera  Nitrosomonas , Nitrosospira  และ  Nitrosococcus
              Amonia --> oxidized --> Nitrite

              Nitrification = Amonia  --> Nitrite  --> Nitrate  
              โดยผสม Nitrobacter  กับ Nitrosomonas พบในพืชดินที่มีการให้ปุ๋ย ammonium 
              salts

2. Class  Betaproteobacteria
·   มี 6 orders , 12 families
·   2 genera ที่สำคัญและเป็นเชื้อที่ก่อโรคในคน (human pathogens)  คือ  Neisseria 
     กับ  Bordetella

2.1 Order  Neisseriales
·   14 genera
·   genus ที่ได้รับความสนใจและศึกษามากคือ Neisseria  ซึ่งเป็น nonmotile,
     aerobic,  gram – negative  และ catalase positive  เกือบทุก species
Neisseria  gonorrhoeae  ทำให้เกิดโรคหนองใน (gonorrhea)
Neisseria  moningitidis  ทำให้เกิดโรคขี้สมองอักเสบ (bacterial meningitis)

     2.2 Order  Burkholoderiales
·    5 families, family  Burkholderiaceae  มีจีนัสที่รู้จักกันดีคือ genus 
 Burkholderia  ที่แยกออกมาจาก genus  Pseudomonas 
·   Burkholderia Gram – negative , aerobic , nonfermentative , non-spore –
      forming, mesophilic straight rods, ส่วนมากเป็น polar flagelated, เป็น oxidase 
     positive และส่วนมากใช้ poly -beta- hydroxybutyrate  เป็นแหล่งคาร์บอนสะสม
·   B. cepacia  สามารถย่อย organic molecules > 100  ชนิด เป็น plant pathogen,
     และก่อโรคกับคนที่เป็น  cystic fibrosis  และ การติดเชื้อของเครื่องมือใน
     โรงพยาบาล
·    Family  Alcaligenaceae  มี  genus  Bordetella  ซึ่งจะเป็น  Gram –negative ,
     aerobic  coccobacilli , 0.2 – 0.5 x 0.5 x 2.0 micron
Bordetella  เป็น  Chemo  organotroph  ต้องการ  organic  sulfur  และ  nitrogen (aminoacids)  เพื่อการเจริญเติบโต
Bordetella เป็น mammalian  parasite  อยู่ใน  respiratory  epithelial  cells
Bordetella  pertussis  เป็น  nonmotile , encapsulated  species  ก่อโรค whooping  cough
·   Family  Comdmondaceae  มี  15  genera  มีความหลากหลายค่อนข้างมาก  บาง   genera  มีโครงสร้าง  “Sheath”  =  a  hollow  tube-like  structure  ล้อมรอบเซลล์ที่ต่อๆ  กัน  Sheath  จะปกคลุมเซลล์  มีหน้าที่  อย่างคือ  
1.  ช่วยแบคที่เรียเกาะกับพื้นผิวที่แข็ง  และคอยดักสารอาหารจากน้ำที่ไหลผ่านมา  
2.  คอยป้องกันการถูกกินโดย protozoa  และ  Bdellovibrio  มี  2  genera  ที่ถูกศึกษามากคือ  Sphaerotilus  และ Leptothrix

2.3  Order  Nitrosomonadales
          ·  chemolithotrophs, Nitrosomonadales
·  2 genera  =  nitrifying bacteria  =  Nitrosomonas  และ  Nitrosospira  (ได้กล่าวไปแล้ว)
· Family  Spirillaceae  มี 1 genus  คือ Spirillum

2.4 Order  Hydrogenophilales
· small  order  มีเชื้อที่ถูกศึกษามากคือ  Thiobacillus  ซึ่งเป็น  colourless  sulfur  bacteria  ซึ่งคล้ายกับ  nitrifying  bacteria  ตรงที่จะมีความหลากหลายมาก
 ·  genera  ที่รู้จักกันดีคือ  Thiobacillus  กับ  Thiomicropira
··    Thiobacillus   เป็น Gram-negative  rod, polarly flagellated
              ·   Thiomicrospira   เป็น long  spiral  cell , polarly flagellated                           
           ·  ข้อแตกต่างของ 2 genera นี้กับ  nitrifying  bacteria  คือไม่มี  extensive  internal 
               membran
           · Thiobacillus  โตในดิน  ในน้ำจืดและน้ำเค็ม
           · Thiobacillus  ทนต่อกรดได้สูง (โตได้ที่  pH = 0.5)
-  Acidified by sulfuric  acid  production
- ทำให้เกิดการกัดกร่อนของโลหะ


3. Class  Gammaproteobacteria
Bergey’s  Manual มี 13  orders , 20  families , ประมาณ  160  genera
3.1    The  purple  sulfur bacteria
·   most purple nonsulfur bacteria เป็น α-proteobacteria  ซึ่งกล่าวไปแล้ว
·   purple  sulfur  bacteria = gamma-proteobacteria  จะกล่าวดังต่อไปนี้
·   Bergey’s  Manual  แบ่ง  purple  sulfur  bacteria  เป็น 2  families  คือ 
          -   Chromatiaceae  มี  22  genera
          -   Ectothiorhodospiraceae  มี  5  genera   เป็น spiral -shaped,
              polarly  flagellated  cells  สะสม  sulfur  globules
          ·   purple  sulfur  bacteria  ทั่วๆไป  เช่น  Thiospirllum, Thiocapsa และ Chromatium
                สามารถ oxidize hydrogen sulfide ได้เป็น sulfur ที่จะสะสมใน  granules 
   purple  sulfur  bacteria พบที่ทะเลสาบที่มีลักษณะ  anaerobic, sulfide rich zones  

3.2  Order  Thiotrichales
          ·   มี  3  families , family  ที่ใหญ่ที่สุดคือ  Thiotrichaceae
          ·   มีทั้ง  rods  และ  filamentous  forms
          ·   family  ที่ถูกศึกษามากคือ  Beggiatoa  และ  Leucothrix
          ·   Beggiatoa เป็น microaerophilic  โตในที่ที่มี  sulfide
          ·   Leucothrix เป็น anaerobic  chemo  orga  notroph  สามารถฟอร์มเป็น  filaments  ยาวๆ ได้
          ·   Leucothrix  มี Life cycle  ซึ่งมันจะแพร่กระจายโดย gonidia
          ·   Thiothrix  สามารถฟอร์มเป็น  sheathed  filaments  และปล่อย  gonidia  จากปลายปิดของ  sheath
          ·  Thiothrix  เป็น  mixotroph   สามารถ oxidizes hydrogen sulfide ได้เป็น sulfur และเก็บไว้ใน  
              granules  และต้องการ  organic  compounds  สำหรับการเจริญเติบโตด้วย
          ·  Thiothrix  เจริญเติบโตในแหล่งน้ำที่มี sulfide

3.3  Order  Methylococcales
          ·   เป็น  methylotrophs
          ·   rods, vibrios  และ  cocci  สามารถใช้  methane , methanol  และ  one – carbon  compounds  เป็นแหล่งอาหารและพลังงานได้  ภายใต้ภาวะ  aerobic  หรือ  microaerobic
          ·   6 genera  เช่น       1. Methylococcus
                                        2. Methylomonas
          ·   ส่วนมากสามารถฟอร์ม cells ใน resting stage  เหมือน  cyst
          ·   สำหรับ  Methylococcales


3.4  Pseudomonadales
           ·   genus  ที่สำคัญคือ  Pseudomonas  เป็น Gram–negative  curvedrods  มี  flagella  ไม่มี  prosthecaeu  หรือ  sheaths
          ·   aerobic , chemoheterotrophs , O2  as  electron  accepter
          ·     Psedomonas  ทุกชนิดมี  TCA  cycle , และน้ำตาล hexoses มักย่อยใน  Enter – Doudoroff  pathway  มากกว่าใน  glycolysis
          ·    Pseudomonas  aeruginosa, P. fluorescens, P. putida  และ  P. syringae
-          ไม่มี  poly -beta- hydroxybutyrate (PHB) = ผลิตผลที่เป็น fluorescent pigment
-          มี  yellow– green pigment  ซึ่งจะเรืองแสงภายใต้แสง UV 
          ·    Pseudomonads  มีลักษณะพิเศษดังนี้
                 1.   สามารถย่อยสลาย (degrade)  สาร organic molecules หรือสารอินทรีย์  ได้หลายๆ ชนิด
  สำคัญต่อ mineralization process
Burkhotderia  capacia สามารถ degrade สาร organic molecules มากกว่า 100 ชนิด
2.      ใช้ทำงานวิจัยทดลอง
genone  ของ  P. aeruginosa  50%  คล้าย  E. coli
มี  genes  สำหรับ catabolism, nutrient transport และการนำโมเลกุลเข้าออกมาก
นี่จึงอธิบายความสามารถของ  Pseudomonas  ที่สามารถเจริญในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างได้
3.      เป็น  animal และ plant pathogens
P. syringae  และ  B. cepacia เป็น plant  pathogens
4.      บางชนิด  เช่น  P. fluorescens ทำให้อาหารเสีย  เช่น  นม  เนื้อ  ไข่  อาหารทะเล  เพราะสามารถโตได้ที่  4 Co  และ ย่อยสลาย (degrade) lipids  และ proteins  ได้
·   genus Azotobacter  อยู่ใน  family  Pseudomondaceae  ด้วย
-   ovoid  bacteria  1.5 – 200 micron
-    pleomorphic
-    มี  cyst 
- catalase positive
- พบในดินและน้ำ  fixes  nitrogen  ได้  แต่เป็น  nonsymbiotic

3.5    Order  Vibrionales
·  proteobacteria
·   facultatively anaerobic  Gram–negative  rods
          ·  1 family = Vibrionaceae  มีสมาชิกเป็น  rods  ที่มี  polar  flagella
          Vibrionaceae  ส่วนมากเป็น  oxidase  positive  ใช้  D–glucose  เป็นแหล่งพลังงาน  พบตามแหล่งน้ำ  มี  6 genera  คือ  Vibrio, Photobacterium, Enhydrobacter, Salinivibrio , Listonella  และ  Allomanas  
-          Vibro  cholerae  ทำให้เกิดโรค cholera
-          V. parahaemolyticus ทำให้เกิดโรค gastroenteritis  (กินอาหารทะเลแล้วท้องเสีย)
-          V. anguillarum ทำให้เกิดโรค fish diseases
-          Vibrio  fischeri  กับ  Photobacterium (marinebacteria) มีความสามารถใน  bioluminescence
-          V. ficheri, P. phoaphoreum  และ  P.  leiognathi  จะเป็น  symbiotic ที่อวัยวะเปล่งแสง (luminous organs) ของปลา
-          Vibrio  fischeri  สามารถ degrade  3',5'- cyclic AMP  และใช้เป็นแหล่งคาร์บอน, ไนโตรเจน  และฟอสฟอรัสสำหรับการเจริญเติบโตได้

3.6  Order  Enterbacteriales
          ·   Enterobacteriaceae  มี  Gram–negative, flagellated หรือ nonmotile, facultatively anaerobic, straight rods  ต้องการสารอาหารง่ายๆ    
          ·   enterobacteria or enteric bacteria
                [Gr. Enterikos = pertaining to the intestine]
          ·   degrade  sugars  โดยใช้  Enbden – Meyerhortf  pathway
          ·   ตัด (cleave)  pyruvic  acid  ได้ formic acid ใน  formic acid fermentation 
                formic  acid  สามารถถูก degrade ไปเป็น H2 + CO2  โดย formic hydrogenlyase  จาก  Escherichia  spp. 
          ·    Family  Enterobacteriaceae   แบ่งเป็น 2 กลุ่มตาม  fermentation  products
       -   Escherichia, Proteus, Salmonella  และ  Shigella เป็น
Mixed acid  fermentation ผลิตภัณฑ์เป็น  lactate, acetate, succinate, formate (หรือ H2 กับ CO2) และ ethanol
       -   Enterobacter, Serratia , Erwinia  และ  Klebsiella  เป็น  butanediol  fermentation  (ผลิตภัณฑ์เป็น  butanediol , ethanol)  และ  CO2
       -   สองกลุ่มนี้สามารถจำแนกได้ด้วย methyl red และ Voges – Proskauer  tests
·   เนื่องจากว่า enteric  bacteria  มีความเหมือนกันมากทางด้าน morphology motility  และความเจริญเติบโต  ดังนั้น  จึงมีการวิเคราะห์ทางชีวเคมีเพื่อจำแนกแบคทีเรียในกลุ่มนี้
          ·   E. coli  ถูกศึกษามากที่สุด เช่นใช้เป็นดัชนีการเคราะห์การปนเปื้อนเชื้อจาก feces (อุจจาระ)
          ·   Salmonella ก่อโรค typhoid fever และ gastroenteritis
              Shigella  ก่อโรค bacillary  dysentery
              Klebsiella ก่อโรค pneumonia
              Yersinia  ก่อโรค plague
              Erwinia  ก่อโรค plant diseases

3.7  Order  Pasteurellales
          ·   0.2 – 0.3 micron, nonmotile, oxidare  positive
          ·   เป็นปรสิต (parasites) ในสัตว์มีกระดูกสันหลัง
          ·   6  genera : Pasteurella, Haemophilus, Actinobacillus, Lonepinella, Mannnheimia  และ  Phocoenobacter  จะก่อโรคให้คนกับสัตว์
                 Pasteurella  multilocida ก่อโรค fowl cholera ใน ไก่ เป็ด
                 P. haemolytica ก่อโรค pneumonia  ในวัว  แพะ  แกะ
                 H.  influenzae  type b เป็น human  pathogen ทำให้เกิดโรคหลายโรคในคนรวมถึง  meningitis  ในเด็ก  

3.8  Order  Bdellovibrionales
          ·   1 family : Bdellovibrionaceae  มี 3 genera
          ·   Bdellovibrio [Gr. Bdella , leech]
          ·   ประกอบด้วย  aerobic , Gram – negative , curved – rods มี polar  flagella
          ·   Flagella หนาเนื่องจากมี  sheath  หุ้มต่อเนื่องมาจาก  cell  wall
          ·   Bdellovibrio  มีลักษณะพิเศษคือ  จะล่า  Gram – negetive  bacteria  เป็นอาหารและวงชีวิตจะเปลี่ยนไปมาระหว่าง  a  non-growing  predatory  phase  กับ  intracellular  m productive  phase
          ·   Bdellovibrio  ใช้ hydrolytic enzymes  ในการเจาะเหยื่อ  เมื่อเข้าไปในตัวเหยื่อแล้วจะอยู่ในพื้นที่ระหว่าง cell wall กับ plasma membrane แล้ว  Bdellovibrio  จะใช้สารอาหารโดยตรงจากเหยื่อ  แล้ว Bdellovibrio  จะมีขนาดยาวขึ้น  แล้วจึงแยกออกเป็นเซลล์ย่อยๆ แตก lysis  ออกมา

3.9  Order  Myxococcales
          ·   Maxobacteria  เป็นแบคที่เรีย  Gram–negative aerobic  และเป็น soil bacteria พบตามพื้นดินทั่วไป
          ·   มี  gliding motility
          ·   วงชีวิตซับซ้อน  ซึ่งมีการสร้าง fruiting bodies  และมีระยะพักเป็น dormant myxospores
          ·   G + C content  = 67 – 71 %
          ·   rod, 0.6 – 0.9 x 3 – 8 micron  ปลายแหลมหรือทู่
          ·   Myxobacteriales  แบ่งเป็น  4 families  ตามลักษณะ vegetative cell, myxospores  และ  sporangia
          ·   Myxobacteria  ส่วนมากเป็น micropredators หรือ scavengers (ผู้ย่อยสลายสามารถปล่อย  digestive  enzyme  ซึ่งจะย่อยเซลล์ของ  bacteria  และ  yeast  บางพันธุ์ปล่อย  antibiotics  ถ้าอยู่รวมกันมากๆ เอนไซม์ที่ปล่อยออกมาจะมาก ทำให้การย่อยมีประสิทธิภาพ
          ·   Myxobacteria  ส่วนมากใช้  amino  acids  เป็นแหล่งคาร์บอน ม ไนโตรเจนและพลังงาน
          ·   The  life  cycle  ของ  Myxobacteria  คล้ายกับ  slime  molds
          บางเซลล์จะพัฒนาเป็น  myxospores  และจะถูกหุ้มปิดไว้ในโครงสร้างที่มีผนังเซลล์อีกที  เรียกว่า  sporangioles  หรือ  sporangia
-          Myxospores = เป็นระยะพัก  ทนต่อรังสีและสามารถอยู่ได้ถึง 10 ปี ในสภาวะที่แห้งแล้ง

5.  Class  Epsilonproteobacteria
          ·   เป็นเซลล์ที่เล็กที่สุดใน 5 classes
          ·   Gram – negative rods  หลายรูปร่าง
          ·    1 order  ที่สำคัญคือ  Campylobacter  กับ  Helicobacter
-          เป็น  microaerophilic, motile  or vibrioid, Gram – negetive  rods
          ·   genus  Campylobacter  เป็นทั้ง  non-pathogens  และ pathogens
                C. fetus เป็น pathogens  ใน productive disease  และแท้งในวัวและแกะ
                           ทำให้เกิด septicemia  (pathogens หรือ toxins ในกระแสเลือด)
                           ทำให้เกิด enteritis = ลำไส้อักเสบ
                C. jijuni ทำให้เกิดการแท้งในแกะ และโรค enteritis diarrhea  ในคน
          ·   14  species  อย่างน้อยใน genus  Helicobacter
                Helicobacter  แยกเชื้อได้มาจากลำไส้ส่วนบนของคน  สุนัข  แมว  และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่น  ในประเทศที่กำลังพัฒนา 70 – 90 % ของประชากรมีเชื้อนี้  25 – 50 % ในประเทศที่พัฒนาแล้วการติดเชื้อน่าจะได้มาในช่วงวังเยาว์  ซึ่งการติดเชื้อที่แท้จริงไม่ทราบ
                Helicobacter pylori  ทำให้เกิด gastritis กับ peptic ulcer disease
                H. pylori สร้าง urease จำนวนมาก ดังนั้น ถ้าตรวจหาเชื้อนี้ด้วยวิธี urea hydrolysis ได้จากตัวอย่าง แสดงว่าติดเชื้อนี้
          ·  Genome ของ Campylobacter jejuni  และ Helicobacter pylori  มีนิวคลีโอไทด์มีขนาดประมาณ  1.6  ล้านคู่เบส
                  

______________________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น