แบคทีเรียที่มีเปอร์เซ็น G+C สูงและเป็นแบคทีเรียแกรมบวก
ใน Bergey’s Manual
พิมพ์ครั้งที่
1 High G+C Gram positive bacteria จะเป็นพวก
actinomycetes (เนื่องจากว่ามี filamentous hyphae แถมยังไม่ค่อยพบว่ามีการ
fermentation และสร้าง asexual spores) ซึ่งจะคล้ายๆกับรา (fungi) แต่ต่อมาจะแยกเป็น กลุ่ม High G+C Gram positives ใน Bergey’s Manual
พิมพ์ครั้งที่
2
1.
คุณลักษณะทั่วไปของ actinomycetes
· เมื่อเพาะเลี้ยงบน agar จะเกิดเป็น
branching network of hyphae มี septa ซึ่งจะแบ่งเซลล์เป็นส่วนๆละ
20 mm หรือมากกว่านี้
แต่ละเซลล์มี nucleoids > 1 การแตกกิ่งก้านของ actinomycetes จนมีลักษณะคล้ายก้อน tissue
เรียกว่า thallus
actinomycetes หลายๆ
ชนิดจะมีการฟอร์มของ asexual thin – walled spore
เรียกว่า conidia หรือ conidiospores ถ้าสปอร์อยู่ใน sporangium จะเรียกว่า sporagiospores สปอร์นี้ยังมีขนาดต่างๆกัน สปอร์ของ actinomycetes มักจะไม่ทนต่อความร้อน
· Actinomycetes ส่วนมาก เคลื่อนไหวไม่ได้ การเคลื่อนไหวมักจะมีเมื่อเป็น flageleted
spores
· Cell wall ของ actinomycetes มี 4 types หลักๆ ตามลักษณะ
1.
peptidoglycan
composition และ structure ก็คือ amino acid ใน
tetrapeptide side chain ตำแหน่งที่ 3
2.
glycine
ใน interpeptide
bridges
3.
peptidoglycan
sugar content
· นอกจากนี้แล้ว การดูองค์ประกอบของ
sugar ใน cell wall ของ actinomycetes ยังสามารถใช้จำแนกแบคทีเรียกลุ่มนี้ได้เช่นกัน
· ความสำคัญ actinomycetes ช่วยย่อยสลาย organic matter, มี anibiotics
และเป็น pathogens
2.
High G+C
Gram Positive Bacteria
in Bergey’s Manual 2nd
· ต่อมาในการตีพิมพ์ของ
Bergey’s Manual ครั้งที่
2 ได้แบ่งแยก
actinomycetes ใหม่ตาม 16S rRNA sequences
· Actenomycetes มี 1 Class (Actinobacteria),
5 subclasses, 6 orders, 14 suborders และ 40 families ซึ่งเป็น high G+C Gram positives
3.
Suborder Actinomycineae
· พวก Actinomyces,
Arcanobacterium และ Mobiluncus อยู่ใน suborder
นี้
· ตัวอย่าง เช่น Actinomyces รูปทรงเป็น straight หรือ slightly curved rods
· เป็นได้ทั้ง facultative หรือ strict anaerobes ซึ่งต้องการ
CO2 เพื่อ best growth
· Cell wall มี lysine (ไม่เป็น diaminopimelic
acid หรือ glycine)
· Actinomyces species
พบทั่วๆไปที่ mucosal surfaces ในคนเราและสัตว์เลือดอุ่น
ที่พบมากจะเป็นที่ oral cavity
· A. bovis ทำให้เกิด ocular infection
(การติดเชื้อที่ตา ) และ periodontal disease (โรคเหงือก)
4.
Suborder Micrococineae
· มี 10
families และแบ่งเป็น
genera ย่อยๆ อีกหลายๆอัน
· ที่รู้จักกันดีใน suborder นี้ คือ genus Micrococcus กับ Arthrobacter
4.1 Micrococus
· เป็น aerobic, catalase –
positive cocci โดยมักจะพบว่ามันจะจับกันอยู่เป็นคู่
, สี่ หรือ กลุ่มใหญ่ เป็น nonmotile
· Micrococci มักจะมีสีเหลือง ส้ม หรือแดง
พบในพื้นดิน น้ำและ ผิวหนังของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แม้ว่าพบที่ผิวหนังแต่ micrococci ไม่เป็น pathogenic
4.2 Arthrobacter
· aerobic, catalase –
positive rods มี lysine ใน
peptidoglycan
· ลักษณะที่พิเศษของ arthrobacter คือ มี rod–coccus growth cycle
Arthrobacter (exponential phase) = irregular rods
(snapping division ) ® coccoid
(stationary phase) ® เพาะลง fresh medium ® กลายเป็น rods
· Anthrobacter มักจะแยกเชื้อได้จากปลา, ในท่อน้ำทิ้ง, ผิวต้นไม้ แต่ที่อยู่ที่สำคัญเป็นพื้นดิน Arthrobacter ปรับตัวได้ดีในดิน
แม้ว่าจะเป็นดินที่ขาดสารอาหาร
· Arthrobacter ยังสามารถย่อยสลายพวก herbicides และ pesticides
· Snapping division = ใน bacteria นั้นมี inner กับ outer cell wall ใน snapping division เฉพาะ inner membrane จะเกิดเจริญเป็น septum ทำให้เกิดแรงตึงที่ outer
membrane สุดท้าย outer membrane ก็แตก เซลล์แยกเป็นสอง
5.
Suborder Corynebacterineae
·
มี 7 families
genus ที่สำคัญ 3
genus คือ Corynebacterium ,
Mycobacterium และ Nocardia
5.1 Genus
Corynebacterium
· aerobic หรือ faccultative,
catalase positive, straight หรือ slightly curved rods
· แบคทีเรียนี้มักจะพบว่า
หลังจาก snapping division เซลล์ที่จะแยกออกไป จะยังคงติดกันอยู่ และมักจะเรียงตัวกันโดยหันด้านข้างชนกัน
· Cell walls มี meso–diaminopimelic acid
· บาง species เป็น saprophytes ในน้ำมันและน้ำ หลายๆ species เป็น plant หรือ animal pathogens เช่น C. diphtheriae ทำให้เกิดโรคคอตีบ (diphtheria) ในคน
5.2 Genus Mycobacterium
· slightly curved
straight rods บางครั้งพบเป็นกิ่งก้านหรือต่อกันเป็น
filaments
· Mycobacterial filaments ® fragmenting เป็น rods และ
coccoid (เมื่อเทียบกับ actinomycetes)
· เป็น aerobic และ catalase
positive
· Mycobacteria โตช้ามาก คือ ใช้เวลา 2-40 วันบนอาหารเพาะเชื้อ agar
· Cell walls มี lipid สูงมาก
และ
cell walls มี
waxes ที่มีโมเลกุลคาร์บอน 60-90
ตัวชื่อว่า mycolic acids
· การที่มี mycolic acids และlipids อื่นๆ ที่ผนังเซลล์ชั้น
peptidoglycan layer ทำให้ mycobacteria
ย้อมติดสี acid–fast (fuchsin dye)
· M. bovis ® ทำให้เกิดวัณโรค (tuberculosis)
ในสัตว์กินหญ้าและลิง
เพราะเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีการ ตรวจสอบ อาหารพวกนม วัว เพื่อป้องกันวัณโรคด้วย
M. tuberculosis ®
tuberculosis ในคน
M. leprae ®ทำให้เกิดโรคเรื้อน
(leprosy)
5.3 Genus Nocordia
· อยู่ใน family Nocardiaceae
มี 2 genera
: Nocardia กับ
R. rhodococcus แต่เนื่องจากทั้ง 2
genera เหมือนกันมากจึงมักจะเรียกเป็น
nocardioforms
· แบคทีเรียกลุ่มนี้จะมี
mycelium ที่แตกออกเป็น rods และ coccoid elements
· ส่วนมากเป็น strict aerobes
· cell walls มี peptidoglycan ซึ่งมี meso-diamino pimelic acid (ไม่มี peptide interbridge) ผนังเซลล์มักมีคาร์โบไฮเดรตพวก arabinose
และ galactose
· Nocardia และ Rhodococcus
มี mycolic acids ที่ walls ด้วย
· Nocardia พบตามแหล่งน้ำต่างๆ ®degradation ของ hydrocarbons และ waxes ทำให้เกิดการเสียหายของ rubber joints ในท่อน้ำ N. asteroides ก่อโรคในคนได้
(ติดเชื้อที่ปอด)
· Rhodococcus พบตามแหล่งดินและน้ำ
® น่าสนใจมากเนื่องจากสามารถ ย่อยสลายโมเลกุลพวก
petroleum hydrocarbons, detergents, benzene, polychlorinated biphenyls (PCBs) และ pesticides
และยังมีความเป็นไปได้ที่ จะใช้ Rhodococcus ในการแยก sulfur
ออกจากน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศจาก sulfer
oxide emissions จากรถยนต์
6.
Suborder Micromonosporineae
· มี 1 family คือ Micromonosporaceae
· Actinoplanetes [Gr. actinos = a ray of beam /
planes / a wanderer] มี mycelium และ cell
wall ชนิด IID, hyphae มักจะมีสี มักจะไม่มี airal mycelium
มี conidiospores
อยู่ใน sporangium ที่ชูขึ้นมาโดย sporagiophore สปอร์มีทั้งเคลื่อนที่ได้และไม่ได้ Actinoplanes และ Pilimelia genus มี 5 sporangia ซึ่งเป็นลักษณะเป็นกรวยกลม ภายในมีสปอร์หลายพันสปอร์ สปอร์จะเรียงกันวงกลมหรือลูกโซ่
Pactylosporangium
สปอร์เป็นรูป club–shaped
เหมือนนิ้วมือ มีสปอร์อยู่ 1-6 สปอร์ Micromonospora มี
สปอร์ที่เห็นเป็นกิ่งก้าน
· Actinoplanetes พบตามพื้นดิน ในป่าจนถึงทรายตามชายหาดทะเล นอกจากนี้แล้วยังพบในแหล่งน้ำจืดโดยเฉพาะตามแม่น้ำลำ คลองเนื่องจากว่ามี O2 และซากพืชอยู่มาก บางสปีชีส์พบในมหาสมุทร actinoplanetes ที่อยู่ตามพื้นดินจะสำคัญในการย่อยสลายซากพืช
ซากสัตว์ Pilmelia โตในอาหารที่มี kenatin Micromonospora สามารถย่อย chitin และ cellulose ได้ และยังสร้าง antibiotics
เช่น gentamicin ได้
7.
Suborder Propionibacterineae
· มี 2 families แบ่งเป็น 10 genera
· genus ที่สำคัญคือ Propionibacterium ซึ่งอยู่ใน family Propionibacteriaceae
-
เป็น pleomorphic, nonmotile, nonsporing
rods บางเซลล์จะพบเป็น coccoid หรือ branched อาจจะเกาะกลุ่มกันอยู่หรือเกาะกันเป็นระยะสั้นๆ
-
faculatatively
anaerobic หรือ aerotolerent
-
lactate และ sugars ถูก fermented เพื่อผลิต propionic และ acetic acids และ CO2
-
usually
catalase positive
-
เจริญได้บนผิวหนัง และทางเดินอาหารในสัตว์ต่างๆ พบในผลิตภัณฑ์นม เช่น cheese Propionibacterium ใช้ผลิต swiss cheese
-
P. acnes เกี่ยวข้องกับการเกิดกลิ่นตัวและสิว
(acne vulgaris)
8.
suborder Streptomycineae
· มี 1 family คือ Streptomycetaceae ซึ่งแยกเป็น 3
genera genus ที่สำคัญคือ Streptomyces ซึ่งมี aerial hyphae
ลักษณะแยกเป็น 2 กิ่งแต่ละกิ่งมี nonmotile conidiospores ต่อกันเป็นเหมือนลูกปัด
· Streptomyces มี cell wall ชนิด type I, G+C content 69-78 %, mycelium
จะไม่มีการแตกหลุด (fragmentation) เชื้อในกลุ่มนี้มักจะถูกเรียกว่า
streptomycetes [Gr. Streptos = bent or twisted, myces = fungus]
· Streptomyces มีประมาณ 500 สปีชีส์ เป็น strict aerobes สปอร์ของ Streptomyces จะต่อกันเป็นลูกปัดหุ้มด้วย
sheath เรียกว่า conidia ซึ่งมักจะมี pigment ผิวเรียบหรือมีขนด้วย
· Streptomyces species สามารถแยกแยะได้ตามสัณฐานวิทยาของมันและลักษณะต่างๆ
ของ Mycelia การเรียงตัวของสปอร์ การใช้คาร์โบไฮเดรต การผลิต antibiotic, hydrolysis of urea, และผลิต hipupuric acid
· Streptomyces มีความสำคัญทั้งทางนิเวศวิทยาและทางการแพทย์ ที่อยู่ตามธรรมชาติของ Streptomyces คือตามพื้นดิน กลิ่นของดินเป็นผลที่เกิดจาก Sterptomyces ซึ่งสร้างสารระเหยพวก geosmin นอกจากนี้แล้ว streptomyces ยังเป็นผู้ย่อยสลายอีกด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะสามารถย่อยสลายพวก pectin, lignin, chitin, keteatin, latex และ aromatic compounds และ Streptomycetes
ยังรู้จักกันดีในแง่ที่มันสามารถผลิตยาปฏิชีวนะได้เช่น amphotericin
B, chloramphenicol, erythromycin, neomycin, nystatin, streptomycin,
tetracycline และอื่นๆ
· Streptomyces scabies ก่อให้เกิดโรค
scub disease กับ มันฝรั่งและบีท (beets) S. somaliensis ก่อโรค actinomycetoma เป็นการติดเชื้อที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดหนอง บวม จนอาจจะลุกลามไปถึงกระดูก S. albus เป็นอีกเชื้อหนึ่งที่พบในผู้ป่วยและอาจก่อโรคได้ด้วย
· Streptoverticillium เป็น genus ที่มี mycetium ที่แตกเป็นกิ่ง แต่ละกิ่งจะมีสปอร์อยู่
9.
Suborder Streptosporangineae
·
มีทั้งหมด 3 families แยกเป็น 14 genera
· Maduromycetes มี type III cell wall และภายในเซลล์มีน้ำตาล madurose
(3-0-methyl – D-galactose), G+C content 64-74 %, aerial mycelia
มีสปอร์ที่ต่อกันเป็นลูกปัดสั้นๆ ส่วน Substrate mycelium จะแตกเป็นแขนง
บางสปีชีส์จะมี sporangia ซึ่งจะไม่ทนต่อความร้อนมาก
Thermomonospora พบในกองเศษที่เน่าเปื่อยและกองฟาง Thermomonospora สามารถเจริญได้ที่อุณหภูมิ 40-48
°C
10. Suborder
Frankineae
·
มี genera ที่สำคัญคือ Frankia กับ Geodermatophilus
·
Frankia มี nonmotile sporangiospores เป็น symbiotic
ในพืชที่ไม่ใช้พืชตระกูลถั่ว เป็น microaerophile สามารถ fix nitrogen ได้ การ fix nitrogen จะคล้ายกับ Rhizobium
· Geodermatophilus มี motilespores
Geodermatophilus เป็น aerobic soil organism
11. Order Bifidobacteriales
· มี 1 family คือ Bifidobacteriaceae แยกเป็น 8 genera
· genera Falcivibrio และ Gardnerella พบที่ท่อทางเดินปัสสาวะของคน
· Bifidobacterium genus เป็นจีนัสที่มีการศึกษากันมาก
เป็น nonmotile, nonsporing, gram–negative
rods อาจพบ rods จับกันเป็นรูปตัววีได้
· Bifidobacterium เป็น anaerobic และชอบหมัก (fermentation) carbohydrates®ได้ acetic และ lactic acids แต่ไม่มี CO2 เกิดขึ้น
พบตามช่องปากลำไส้ของสัตว์เลือดอุ่น
ในท่อน้ำทิ้งและพบที่แมลง B. bifidus เป็นเชื้อตัวแรกที่จะเข้ามาอยู่ที่ลำไส้คนเรา โดยเข้ามาตอนที่ดูดนมแม่ในวัยเด็ก
.......................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น